วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ระบบดูแลสวนสำหรับคนกรุงเทพฯ ชาวออฟฟิศที่มีสวนอยู่ต่างจังหวัด

ระบบดูแลสวนสำหรับคนกรุงเทพฯ ชาวออฟฟิศที่มีสวนอยู่ต่างจังหวัด


ระบบดูแลสวนสำหรับคนกรุงเทพฯ ชาวออฟฟิศที่มีสวนอยู่ต่างจังหวัด

ทุกวันนี้คนในเมืองและคนกรุงเทพฯต่างซื้อที่ต่างจังหวัดเพื่อทำสวน ทำไร่ ปลูกพืชทำการเกษตร ไว้เป็นงานอดิเรก หรือ เพื่อมีอะไรทำในช่วงเกษียณ แต่ ณ ปัจจุบันยังต้องทำงานในเมืองหรือที่ กทม. อยู่จึงต้องหาคนดูแลสวน คอยรดน้ำ ทำร่มเงา  เปิดไอน้ำเครื่องพ่นหมอก ใส่ปุ๋ย ฯลฯ

จึงต้องทำการจ้างคนเฝ้าสวน การที่จ้างคนเฝ้าสวนนั้น อาจมีบางครั้งที่ติดภาระกิจ หรือ ป่วย ดังนั้นจึงไม่สามารถดำเนินการต่างๆได้ และถ้าผลัดให้อีกคนที่ไม่ชำนาญมาดู ก็ทำให้คลาดเคลื่อนได้ ผลก็คือน้ำไม่รด ไม่ทำเงา ไม่ใส่ปุ๋ย ในพื้นที่ หรือ ในจุดที่เราต้องการเป็นพิเศษ ต้นไม้หรือผลผลิตอาจเสียหายได้  ในบางครั้งกว่าจะรู้ความเสียหายก็ต่อเมื่อไปถึงที่สวน ที่ไร่ แล้วพบด้วยตนเอง ซึ่งก็สายเกินไป

ดร. กรีน จึงได้คิดค้นแอปพลิเคชัน และ การจัดการผ่าบเว็บไซท์ ซึ่งช่วยตรวจจับ ตรวจวัดค่าที่สำคัญทางการปลูกพืชหรือการเกษตร (Agriculture KPIs) เช่น:
  • อุณหภูมิ
  • ความชื้นอากาศ
  • ความชื้นในดิน
  • ทิศทางลม
  • ความเร็วลม
  • อัตราการใช้น้ำ
  • ปริมาตรของน้ำที่ใช้ไปทั้งหมด
  • ความเข็มแสง 
สามารถดูวิดีโอย้อนหลังได้ตามลิงค์ด้านล่าง:

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
โทร: 0926382229 , 0926382723 , 0926382366 , 0926382350 , 025781559
แอดไลน์ line id : @drgreen
คลิ๊กลิงค์เพื่อแอดไลน์: https://line.me/R/ti/p/%40drgreen

SUBSCRIBE: https://www.youtube.com/drgreenchannel
Facebook: https://www.facebook.com/drgreensolarcell
Instagram: https://www.instagram.com/drgreenenergy
Twitter: https://twitter.com/DrGreenGroup
URL: www.drgreenenergy.com 

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ทำไมต้องเอ็นบี-ไอโอที ? ทำไมไม่ต่อโมเด็ม GSM/3G/LTE? ดีกว่าตรงไหน?


1. บอร์ดที่ใช้ในการเชื่อมต่อ ไอโอที (IoT) หรือ อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง สามารถเป็นได้หลายแบบ ในคลิปนี้ขอกล่าวเริ่มจาก Licensed Band ซึ่งก็คือ NB-IoT
2. พลังงานเป็นส่วนสำคัญซึ่งพาวเวรอ์ฟิล์ม (PowerFilm Solar) สามารถช่วยผลิตไฟฟ้าแม้แสงไฟภายในอาคาร ซึ่งแสงไฟในอาคารก็เปิดใช้งานอยู่แล้วก็นำมาเพื่อชาร์จไฟให้แบตฯ ของอุปกรณ์หรือเซ็นเซอร์ต่างได้
สอบถามทางไลน์คลิก: https://line.me/R/ti/p/%40drgreen
โทร: 0926382229 , 0926382723 , 0926382366 , 0926382350 , 025781559
line id: @drgreen
เข้าชมได้ที่: www.drgreenenergy.com

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561


ดร. กรีน เกษตรอัจฉริยะ สั่งรดน้ำฉีดยาตามสภาพอากาศและลม ทำอะไรได้บ้าง...
1. ประหยัดน้ำกว่า ด้วยต้นทุนอุปกรณ์ที่ถูกกว่า
1.1) รดน้ำอัตโนมัติ โดยดูจากน้ำในดินจริงๆ แม่นยำกว่าตั้งเวลา
1.2) ฉีดน้ำอัตโนมัติเมื่ออากาศร้อน ช่วยปรับอุณหภูมิ
2. พ่นยา การราดสาร ให้ยา ปลอดภัยกว่าเดิม ทำงานเร็วกว่าเดิม
2.1) ปลอดภัยพ่นสารเคมีไม่ลอยมาใส่ตัว
2.2) ดูทิศทางลมให้ยาที่พ่นไปยังที่หมาย
3. ปลูกพืชตามการตั้งค่าในหลายๆช่วงอายุจนเก็บเกี่ยว
4. เตรียมการป้องกันต่างๆ ที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ไม่ให้ล้ม เพื่อลดความเสียหาย เตรียมป้องกันล่วงหน้า
5. ช่วยเกษตรกรให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประหยัดเงินมากขึ้น มีผลผลิตดีขึ้น สะดวกขึ้น มีเวลาให้สร้างกิจกรรมที่สร้างรายได้มากขึ้น เพราะไม่ต้องเฝ้า ไม่ต้องเดินทางไปดูบ่อยๆ
6. ภาษาไทย ทำงานง่าย เข้าใจง่าย
สอบถามทางไลน์คลิก: https://line.me/R/ti/p/%40drgreen
โทร: 0926382229 , 0926382723 , 0926382366 , 0926382350 , 025781559
line id: @drgreen
เข้าชมได้ที่: www.drgreenenergy.com

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เอ็นบี-ไอโอที (NB-IoT) และ 5G สู่ศักยภาพทางธุรกิจใหม่ ตอนที่ 1

เอ็นบี-ไอโอที (NB-IoT) และ 5G สู่ศักยภาพทางธุรกิจใหม่

มีการใช้งานไอโอที หรือ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) อย่างแพร่หลายตั้งแต่ในอดีตและในอนาคต ในอดีตมีการใช้งานในกลุ่มเครื่องจักรกับเครื่องจักร (Machine to Machine หรือ M2M) ในอุตสาหกรรมต่างๆ และความนิยมก็ได้แพร่มากขึ้นในปัจจุบันหลายสู่ภาคธุรกิจต่างๆนอกเหนือจากในกลุ่มอุตสาหกรรม เพราะขนาดวงจรมีขนาดเล็กลงใช้กำลังไฟฟ้าลดลง และมีราคาหรือต้นทุน (TCO ทั้ง CAPEX และ OPEX) ที่เข้าถึงได้ จึงใช้งานอย่างกว้างขวางมากขึ้นเช่น บ้านอัจฉริยะ (Smart Home), เกษตรแม่นยำ (Smart Farm), ระบบอัจฉริยะด้านพลังงานหมุนเวียน โดยมีการใช้ในระบบโซล่าร์เซลล์และกังหันลม ในการติดตามประสิทธิภาพของระบบเช่น กำลังการผลิตไฟฟ้า สูบน้ำ เป็นต้น

ส่วนระดับมหภาคในหลายๆประเทศนั้น เอ็นบี-ไอโอที(NB-IoT) ได้มีการใช้ในการให้บริการต่างๆเช่น การอ่านมิเตอร์อัจฉริยะ (IMR หรือ Intelligent Meter Reading) ซึ่งใช้กับไฟฟ้า น้ำประปา ก๊าซ, การเชื่อมต่อยานพาหนะ เพื่อทำให้เป็นรถยนต์อัจฉริยะ (Connected Car), การติดตามสินทรัพย์ (Asset Tracking), ระบบเช่าจักรยานในเมือง ในมหาวิทยาลัย, ตู้กดเงินอัตโนมัติ เป็นต้น ซึ่งจัดอยู่ในการประยุกต์ใช้งานของเครือข่ายสื่อสารแบบกว้างที่เน้นใช้พลังงานต่ำ (Low Power Wide Area หรือ LPWA) 

มาตราฐานเอ็นบี-ไอโอที (NB-IoT) ได้กำหนดโดย 3GPP Release 13 ซึ่งได้สรุปในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา และยังได้มีการพัฒนาต่อเนื่องให้รองรับใน 5G อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะประหยัดพลังงานขึ้น รับ/ส่งข้อมูลและตอบสนองเร็วมากขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญ และมีระบบการเชื่อมต่อที่แม่นยำขึ้น (รายละเอียด 5G จะกล่าวในบทความหน้า ซึ่งมาตราฐาน 5G ได้ประกาศเมื่อปีนี้โดย 3GPP ใน Release 15 หรือ Rel-15 3GPP ซึ่งก็ได้ตั้งเป้าแล้วว่าภายในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2562 จะประกาศมาตราฐาน 5G เฟส 2 หรือ 3GPP Rel-16 5G phase 2 ออกมา ทั้งนี้การจะได้ใช้งาน 5G นั้นอาจต้องพิจารณาในส่วน การประกาศกฎระเบียบ จัดสรรความถี่ในประเทศไทยของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจมาเร็วกว่า พ.ศ. 2563 ก็เป็นไปได้)

มาทำความรู้จักกับ สถาปัตยกรรมระบบเอ็นบี-ไอโอที (System Architecture of Narrowband-IoT)
NB-IoT ทำได้โดยอาศัยช่องสัญญาณเดิม หรือ อินแบนด์ (in-band) ซึ่งเป็นการใช้รีซอร์ซบล็อก (resource blocks) ของคลื่น LTE หรือ 4G ปกติทั่วไป หรือใช้ส่วนที่เป็นการ์ดแบนด์ (guardband) ของคลื่น LTE ก็ได้

ในส่วนของการจัดสรรคลื่นให้ NB-IoT โดยเฉพาะก็สามารถทำได้เช่นกันแต่อาจสิ้นเปลืองและลงทุนไม่คุ้มค่านัก

สรุปข้อดีของระบบ NB-IoT
  • สามารถใช้ได้เป็นบริเวณกว้างและไกลจากสถานีฐาน
  • กินไฟน้อย
  • ราคาย่อมเยาว์ เข้าถึงได้
  • ช่องสัญญาณรองรับการใช้งานในปริมาณมากๆ จึงไม่เกิดอาการใช้ช้าหรือใช้ไม่ได้เหมือนใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือในช่วงเวลาที่คนใช้มากๆ (congestion)

พบกับบทความเรื่องคลื่นความถี่ NB-IoT ในตอนถัดไป
สอบถามทางไลน์คลิก: https://line.me/R/ti/p/%40drgreen
โทร: 0926382229 , 0926382723 , 0926382366 , 0926382350 , 025781559
line id: @drgreen

เข้าชมได้ที่: www.drgreenenergy.com

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เอ็นบีไอโอที (NB-IoT หรือ Narrowband IoT) คืออะไร?

เอ็นบี ไอโอที (NB-IoT) หรือ แนโรว์แบนด์ ไอโอที (Narrowband IoT) 
เป็นมาตรฐานเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายสำหรับ เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ โดยอาศัยเครือข่ายผู้ให้บริการมือถือ ซึ่งอาศัยความได้เปรียบจากคลื่นความถี่ต่ำ เช่นในเมืองไทย ณ ตอนนี้ใช้ความถี่ 900MHz (แบนด์ 8) หรือ ในระบบ LTE-Cat.NB1
ระบบเอ็นบี ไอโอที เป็นระบบที่ได้พัฒนาขึ้นโดย 3GPP ซึ่งเป็นการอัพเกรดจากระบบ LTE ตามมาตราฐานที่กำหนดไว้ใน 3GPP Release 13 (หรือ LTE Advance Pro) ซึ่งก็จัดอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี Low Power Wide Area Network (LPWN) ที่ใช้พลังงานน้อยมาก

การทำงานในโหมดประหยัดพลังงาน (Power Saving Mode หรือ PSM) นั้นสามารถทำให้ชิพเซ็ต NB-IoT นี้ทำงานได้ยาวนานถึง 9.7 ปี โดยใช้แบตเตอรี่เพียง 1000mAh เท่านั้น
หมายเหตุ: การคำนวนอ้างอิงสภาพแวดล้อมทางสัญญาณโดยมีระดับสัญญาณภาครับ (Received Signal Level) ที่ -129 dBm และส่งสัญญาณ (Transmission Power) ที่ 23 dBm

รายละเอียดกำลังการกินไฟของ NB-IoT
  • PSM Mode = 3.2 μA
  • Idle/Standby = 6 mA
  • Active Tx (@23 dBm) = 250 mA
  • Active Rx = 61 mA
รายละเอียดการกินไฟของ NB-IoT ในสถานะการทำงานต่างๆ
  • Startup ⇨ Attach (ครั้งแรก) = 175.46 μAh (ซึ่งจะกินเวลาเพียง 17.5 วินาที)
  • Connect State = 72.90 μAh (ซึ่งจะกินเวลาเพียง 5.0 วินาที)
  • PSM ⇨ Attach = 10.70 μAh (ซึ่งจะกินเวลาน้อยมากที่   0.8309 วินาที)
  • PSM ⇨ ส่งข้อมูล 200ไบท์ = 119.60 μAh (ซึ่งจะกินเวลาเพียง 3.1 วินาที)
  • PSM = 80.80 μAh (เปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง)
รวมอัตราการใช้ไฟฟ้าในการใช้งานครั้งแรกที่ 175.46 μAh และหลังจากนั้นจะมีอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ 284 μAh ดังนั้นถ้ามีการนำพาวเวอร์ฟิล์ม (Powerfilm) มาผลิตไฟฟ้าเพื่อจ่ายพลังงานก็จะทำให้แบตเตอรี่นั้นอายุยืนขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญดังจะเห็นได้จากกราฟด้านล่างดังต่อไปนี้

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความลึกของการจ่ายกระแสไฟ   

  • ความจุของแบตเตอรี่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญกับการดึงกระแสเพิ่มขึ้น
  • ความจุที่ระบุไว้สำหรับค่าคงที่ที่ต่ำ

จากบทความข้างต้น ความเข้าใจในเรื่องคลื่นความถี่วิทยุ และ ไฟฟ้ากำลังซึ่งรวมถึงการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างระบบไอโอที (IoT) หรือ เอ็นบีไอโอที (NB-IoT) ในบทความหน้าจะเริ่มทำการเจาะลึกเรื่องคลื่นความถี่ (Radio Frequency หรือ RF) ซึ่งจะคอยนำการออกแบบดีไซน์ด้านกำลังไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ไปพร้อมๆกัน

ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม และ สามารถแนะนำ หรือ comments มาได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการผลิตหรือเขียนบทความให้น่าสนใจและน่าติดตามมากขึ้น





สอบถามทางไลน์คลิก: https://line.me/R/ti/p/%40drgreen
โทร: 0926382229 , 0926382723 , 0926382366 , 0926382350 , 025781559
line id: @drgreen

เข้าชมได้ที่: www.drgreenenergy.com

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Dr. Green Energy - ระบบเกษตรแม่นยำหรือสมาร์ทฟาร์มผ่านการเชื่อมต่อ NB-IoT


Dr. Green Energy - ระบบเกษตรแม่นยำหรือสมาร์ทฟาร์มผ่านการเชื่อมต่อ NB-IoT ให้คุณได้เข้าถึงได้ง่ายกว่าและไม่ต้องยุ่งยากในการขอไฟเบอร์อินเตอร์เน็ตหรือต้องมาจ่ายรายเดือนเพื่อซิมอินเตอร์เน็ต

ข้อดีของ Dr. Green NB-IoT ก็คือ:
1. อิสระที่จะติดเซ็นเซอร์ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องลากสายไฟทำได้แม้ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง
2. มีเซ็นเซอร์หลากหลาย ใช้งานได้ทั้งเกษตรแม่นยำ ประเภทต่างๆ ระบบกังหันลม ระบบโซล่าร์เซลล์
3. ปรับแต่งหน้าจอแสดงผลให้เข้ากับคุณ
4. เป็น IoT ที่มีเสถียรภาพเพราะ NB-IoT เป็นมาตราฐาน 3GPP ที่เป็นระดับโลก
5. เป็นภาษาไทยเพื่อคนไทยใช้งานอย่างเข้าถึงได้ เท่าเทียมกันทุกคน

ดร.กรีน เอนเนอร์จี มุ่งสรรหาระบบสมาร์ทฟาร์มหรือเกษตรแม่นยำที่ประหยัดกว่า และ ต้นทุนการเชื่อมต่อราคาถูกกว่า แต่ยังคงสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทฟาร์มขึ้นคลาวด์ ทำเกษตรแม่นยำ และพร้อมติดตั้งที่โรงเรือน หรือ ไฮโดรโพนิกส์ หรือคอยเฝ้าตรวจตราพืชผลเกษตรราคาสูง

สอบถามทางไลน์คลิก: https://line.me/R/ti/p/%40drgreen
โทร: 0926382229 , 0926382723 , 0926382366 , 0926382350 , 025781559
line id: @drgreen
เข้าชมได้ที่: www.drgreenenergy.com

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

โซล่าร์เซลล์ สำหรับอุตสาหกรรมไอโอที (IoT)


ในปัจจุบันนี้ เราได้เห็นการใช้งานอุปกรณ์ IoT  ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ต้องใช้พลังงาน ในการทำงาน และการเชื่อมต่อเข้ากับระบบ โดยการขจัดข้อ จำกัด ของแบตเตอรี่ ธุรกิจเชิงพาณิชย์สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายโดยลดการบำรุงรักษาและผู้บริโภคเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายที่พวกเขาต้องการ

โดยภาพรวมแล้ว เราจะดูว่าการจัดสรรพลังงานช่วยเพิ่มโซลูชัน IoT ในพื้นที่อุตสาหกรรมอย่างไร เราจะกำหนดการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมให้กว้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตการเกษตรโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง เช่นเดียวกับธุรกิจในเชิงพาณิชย์ บริษัท ในพื้นที่อุตสาหกรรมยังได้รับแรงหนุนจากการประหยัดต้นทุน ถึงแม้จะได้รับประโยชน์จากระบบอัตโนมัติในอาคารและระบบการจัดการทรัพย์สินเช่นเดียวกับธุรกิจเชิงพาณิชย์ก็ตามการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ บริษัท อุตสาหกรรมมาจากการบำรุงรักษาเชิงป้องกันและการตรวจสอบการติดตั้งอุปกรณ์ก่อนที่จะเสียจะถูกกว่ามากหลังจาก นอกจากนี้ยังสามารถหยุดสายการผลิตซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียทางการเงินต่อไป การรู้ว่าเมื่ออุปกรณ์กำลังจะเกิดการเสียหายหรือชำรุดเป็นส่วนสำคัญของข้อมูล ก่อนที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่จะได้รับการตรวจสอบโดยการตรวจสอบภาพซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้องและอาจมีข้อผิดพลาดจากมนุษย์ วันนี้สามารถตรวจสอบอุปกรณ์อุตสาหกรรมได้ตลอดเวลาหรือแบบเรียลไทม์โดยใช้เซ็นเซอร์ Analytics สามารถนำไปใช้กับข้อมูลที่ผลิตเพื่อคาดการณ์เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น

ในกรณีศึกษาหนึ่งผู้ผลิตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ลง 66% โดยใช้การวิเคราะห์การสั่นสะเทือนเชิงพยากรณ์

ในหลาย ๆ กรณีเครื่องจักรแสดงสัญญาณการสึกหรอก่อนที่จะหลุดออกอย่างสมบูรณ์ ตัวอย่างเช่นเซ็นเซอร์การสั่นสะเทือนสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงความถี่เรโซแนนซ์ภาพความร้อนและเทอร์โมคัปเปิลสามารถแสดงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิพร้อมกับเซ็นเซอร์อื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถตรวจสอบได้เกือบทุกด้านของอุปกรณ์อุตสาหกรรม

ข้อมูลที่ผลิตโดยเซ็นเซอร์เหล่านี้ถูกเก็บรวบรวมและสามารถส่งไปยังเมฆที่จะวิเคราะห์ ความก้าวหน้าในการวิเคราะห์ข้อมูลและอัลกอริทึมการเรียนรู้ด้วยเครื่องทำให้ระบบการบำรุงรักษาเชิงป้องกันเหล่านี้มีความถูกต้องสูง พวกเขาสามารถมองเห็นแนวโน้มและสรุปได้ไกลเกินกว่าความสามารถของบุคคลคนเดียว

ไอโอที (IoT) ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำข้อมูลเชิงรุกได้มากกว่าการตัดสินใจที่ไม่คาดฝัน ผู้ผลิตรู้ว่าอุปกรณ์ของพวกเขากำลังจะล่มสลาย ชาวนารู้ว่าเมื่อใดที่ดินต้องการเพาะหรือรดน้ำก่อนที่พืชจะตาย บริษัท น้ำมันและก๊าซสามารถตอบสนองได้เร็วขึ้นเพื่อการรั่วไหล DOT สามารถทราบสภาวะเวลาจริงของถนนและสะพานได้

อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการดำเนินการอย่างกว้างขวางของระบบเหล่านี้คือการลงทุนครั้งแรกที่มีขนาดใหญ่ เครือข่ายเซ็นเซอร์ไร้สายได้ขจัดความจำเป็นในการใช้สายไฟซึ่งช่วยลดต้นทุนการติดตั้งได้อย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบำรุงรักษาแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง

การเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ตายแล้วลงในเครือข่ายเซ็นเซอร์ไร้สายขนาดใหญ่เหล่านี้อาจเป็นต้นทุนที่สำคัญสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมซึ่งจะช่วยลดผลตอบแทนในระยะยาว

นักพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายรายพยายามแก้ไขปัญหานี้โดยการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ นี่แค่เตะถังลงที่ถนน แต่เราต้องมองปัญหาจากมุมที่แตกต่างกัน เราจะใช้พลังงานที่มีอยู่แล้วในสิ่งแวดล้อมเพื่อให้พลังงานแก่อุปกรณ์ตรวจจับเหล่านี้ได้อย่างไร?

เทคนิคการเก็บเกี่ยวพลังงานสามารถดึงพลังงานจากความร้อนส่วนเกินหรือการสั่นสะเทือนที่เกิดจากอุปกรณ์ที่ใช้หรือเก็บพลังงานจากแสงในร่มหรือแดดภายนอก เวลามากกว่านี้แหล่งข้อมูลแวดล้อมเหล่านี้สามารถให้พลังงานมากกว่าการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุตสาหกรรม

เพื่อแสดงให้เห็นว่าการเก็บเกี่ยวพลังงานสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมได้อย่างไรจะมีการกำหนดวิธีการแก้ปัญหาพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับ Sensoterra Moisture Probe การตรวจวัดนี้จะวัดระดับความชื้นของดินและส่งข้อมูลไปยังเกตเวย์ซึ่งสามารถส่งไปยังคลาวด์ได้

ใช้โปรโตคอล LoRa ซึ่งเป็นโปรโตคอลไร้สาย Low Area Wide Area Network (LPWAN) อย่างมีประสิทธิภาพ LoRa ใช้วงดนตรีที่ไม่ได้รับอนุญาตซึ่งหมายความว่าไม่มีการบอกรับข้อมูลข้อมูลและมีสายตายาวกว่า 10 กิโลเมตร โปรโตคอล LPWAN ทำงานได้ดีสำหรับแอพพลิเคชันการตรวจสอบอุตสาหกรรมที่เกตเวย์เดียวสามารถครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดสนามหรือมหาวิทยาลัยและไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลที่มากเกินไป

ขั้นตอนแรกในการอธิบายคุณลักษณะของโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์คือการกำหนดปริมาณการใช้พลังงานของอุปกรณ์ของคุณ ก่อนหน้านี้เราได้ใช้อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพื่อประมาณการใช้พลังงานซึ่งง่ายและรวดเร็ว บางครั้งข้อมูลอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่พร้อมใช้งานดังนั้นวิธีอื่นในการพิจารณาการใช้พลังงานจะขึ้นอยู่กับโปรโตคอลไร้สายที่คุณใช้ความถี่ในการส่งข้อมูลและปริมาณพลังงานที่อุปกรณ์ใช้ขณะหลับ (Sleep Mode) หรือไม่ใช้งาน

LoRa ถูกออกแบบมาเพื่อใช้พลังงานต่ำ เมื่อถึงเวลาที่จะส่งอุปกรณ์จะตื่นขึ้นมาแล้วทำการวัดส่งข้อมูลจากนั้นกลับไปนอน กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 5-10ms ขณะที่เครื่องเปิดอยู่เครื่องจะต้องใช้กระแสไฟฟ้าประมาณ 10mA ขณะอุปกรณ์ปิดอยู่อุปกรณ์อาจต้องใช้พลังงานน้อยกว่า 1uA

เพื่อให้สามารถใช้พลังงานได้ทุกวันเราสามารถคำนวณพลังงานที่ใช้ต่อการรับส่งข้อมูลคูณด้วยจำนวนการรับส่งข้อมูลที่จำเป็นต่อวันจากนั้นเพิ่มการใช้จ่ายในการหลับ 

สมมติว่าเรากำลังใช้ระบบ 3V:
0.010A x 3V x .010 วินาที / (3600 วินาทีต่อชั่วโมง) = 83nWh ต่อการส่ง

1uA x 3V x 24h = 72uWh ต่อวัน

ตราบใดที่การส่งข้อมูลเป็นช่วงสั้นๆ หรือตาม Duty Cycle ในช่วงที่อุปกรณ์อยู่ในโหลดหลับหรือ sleep mode จะลดการใช้พลังงานไฟฟ้า

ที่อัตราชั่วโมงต่อครั้ง 75uWh ต่อวันเป็นค่าประมาณที่ปลอดภัย

ถัดไปเราสามารถปรับขนาดโมดูล PowerFilm OEM ที่กำหนดเองได้โดยการพิจารณาเงื่อนไขของแสงและแรงดันไฟฟ้าของระบบของเรา เราจะใช้โมดูลเชื่อมต่อ 3 cell tandem ซึ่งมีแรงดันในการทำงาน 3.6V ในวันที่มีเมฆมากหรือในพื้นที่สีเทา PowerFilm solar material สร้างประมาณ 1mW ต่อตารางเซ็นติเมตร

ในเงื่อนไขเหล่านี้วัสดุแสงอาทิตย์ 1 ตารางเซ็นติเมตร จะสามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากจำนวนพลังงานแสงอาทิตย์นอกอาคารมีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้พลังงานต่ำสุด

ถัดไปเราจำเป็นต้องกำหนดวงจรการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีที่สุดและเลือกองค์ประกอบที่เก็บข้อมูล

สำหรับการใช้งานนอกอาคารนี้ super capacitor จะทำงานได้ดีที่อุณหภูมิสูงและต้องใช้วงจรการชาร์จที่ซับซ้อนน้อยลง มีตัวรับสัญญาณไร้สายจำนวนมากที่สามารถรับแรงดันไฟฟ้าเข้าได้ตั้งแต่ 2-3V ซึ่งเราสามารถสรุปได้สำหรับกรณีนี้ ตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้าต่ำ Dropout 3V (LDO) สามารถใช้เพื่อเรียกเก็บ supercapacitor ซึ่งสามารถสั่งให้อุปกรณ์นี้ใช้งานได้โดยตรง

ตัวเก็บประจุขนาด 540mF จะสามารถใช้งานอุปกรณ์นี้ได้ประมาณหนึ่งวันโดยไม่มีแสงอาทิตย์

นี่คือตัวอย่างที่ดีของการเก็บเกี่ยวพลังงานที่มีศักยภาพได้ในพื้นที่อุตสาหกรรม เครือข่ายเซ็นเซอร์กำลังต่ำขนาดใหญ่ที่ต้องการการบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยทำให้ทั้งอุตสาหกรรมสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลขนาดใหญ่ของอนาคตจะมาจากอุปกรณ์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองขนาดเล็ก

สอบถามเพื่อเติมได้ที่:
สอบถามทางไลน์คลิก : https://line.me/R/ti/p/%40drgreen
โทรสอบถาม:
ทั่วไป: 0926382229 , 0926382723, 025781559
Special Deployments (DoD, Tactical, Public Safety): 0926382366 , 0926382350
เข้าชมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : www.drgreenenergy.com

ที่มา: https://www.powerfilmsolar.com/about-us/the-horizon-blog/2018/07/06/solar-power-for-industrial-iot

ระบบดูแลสวนสำหรับคนกรุงเทพฯ ชาวออฟฟิศที่มีสวนอยู่ต่างจังหวัด

ระบบดูแลสวนสำหรับคนกรุงเทพฯ ชาวออฟฟิศที่มีสวนอยู่ต่างจังหวัด ระบบดูแลสวนสำหรับคนกรุงเทพฯ ชาวออฟฟิศที่มีสวนอยู่ต่างจังหวัด ทุกวันนี้ค...